อาร์เซน่อล เปิดสนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เสมอกับเชลซี ในเกมส์ลอนดอนดาร์บี้แมทช์ 0-0
เริ่มเกมส์ อาร์เซน่อลเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเล่นก่อนและเป็นฝ่ายบุกจากขวาไปซ้ายทางจอภาพ รูปเกมส์ครึ่งแรกเป็นไปอย่างรัดกุม เป็นเชลซีทีมเยือนที่เล่นจังหวะสวนกลับได้หวือหวากว่ามีจังหวะเกือบได้ประตูจากเฟร์นานโด ตอร์เรสที่หลุดเข้าไปในเขตโทษตั้งแต่สิบนาทีแรกแต่ทำอะไรไม่ได้
ในนาทีที่ 13 อาร์เซน่อลก็มีโอกาสจากฟรีคิกของ ธีโอ วัลค็อตต์ทางฝั่งซ้ายก่อนจะเปิดลึกเกือบสุดเส้นหลังให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ชาร์ทบอลชนเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ช่วง 25 นาทีแรกเชลซีทำเกมส์สวนกลับได้ดีกว่ามีโอกาสทำประตู 5 ถึง 6 ครั้งแต่ยังไม่เข้ากรอบสักครั้ง แต่การครองบอลเป็นฝ่ายอาร์เซน่อลที่ครองบอลได้มากกว่า
ใบเหลืองแรกของเกมส์เป็นทางเจ้าบ้านอาร์เซน่อลที่ได้ก่อน จากโทมัส โรซิซกี้ นาทีที่ 30 ในช่วง 10นาทีสุดท้ายยังเป็นเชลซี ที่ทำเกมส์บุกได้ดีกว่า
แต่นาทีที่ 41 อาร์เซน่อลน่าได้ประตูนำสุดๆ จากจังหวะฟรีคิกระยะเกือบ 30 หลาที่โยนเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ที่หนีตัวประกบไปยืนอยู่โล่งๆคนเดียวและได้จังหวะโหม่งเต็มๆบอลลอยไปชนคานกระเด้งออกมาให้กองหลังเชลซีเคลียร์ออกไปได้
และอีกจังหวะนาทีที่ 44 เป็นอเล็กซานเดอร์ ซง ที่หยอดบอลให้ ฟาน เพอร์ซี่ ซัดเผาขนเต็มข้อแต่บอลไปติดเซพ ปีเตอร์ เช็ค จนจบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันที่สกอร์ อาร์เซน่อล 0-0 เชลซี
เริ่มครึ่งหลังช่วง 15 นาทีแรกรูปเกมส์ยังพลัดกันสวนเร็วใส่กันเหมือนเดิม มีจังหวะสวนกลับน่ากลัวหลายครั้งแต่ยังทำแะไรกันไม่ได้ แต่เกมส์เริ่มดุเดือดขึ้นมีใบเหลืองฝ่ายละ 2 คนแล้วตอนนี้โดย ฟลอร็องต์ มาลูด้า โดนใบเหลืองเป็รคนแรกของ เชลซี นาทีที่ 49
นาทีที่ 60 เวงเกอร์ ขยับเปลี่ยนตัวก่อนจากการบาดเจ็บของ ธีโอ วัลค็อตต์ ต้องเปลี่ยนตัวออกไปโดยส่ง แชร์วินโญ่ ลงมาลากเลื้อยแทน
ยังไม่หนำใจ อาร์เซน่อลเปลี่ยนตัว คนที่ 2 โดยส่ง อาบู ดิยาบี้ ลงมาแทน โทมัส โรซิซกี้ นาทีที่ 65 ฝ่ายเชลซีก็ขยับตาม โดยส่ง จอห์น โอบี มิเคล ลงมาแทน โอลิโอล โรเมอู นาทีที่ 66
เปลี่ยนให้หมด นาทีที่ 70 อาร์เซน่อล เปลี่ยนตัวคนที่ 3 ส่ง อังเดร ซานโตส ลงมาแทน อเล็กซ์ ชัมเบอร์เลนด์ รูปเกมส์อาร์เซน่อลเริ่มดีกว่าเชลซีเล็กน้อย มีโอกาสขึงอยู่หน้ากรอบประตูเชลซีอยู่ 2-3 จังหวะ จนเชลซี ต้องเปลี่ยนผู้เล่นคนที่ 2 โดยส่ง ฆวน มาต้า ลงมาแทน ซาโลมง กาลู นาทีที่ึ 74
ลงมาทำไม่ อาบู ดิยาบี้ ลงมาได้แค่ไม่กี่นาที ก็โดนใบเหลืองซะแล้ว จากจังหวะไปเสียบผู้เล่นเชลซีล้มลงต่อหน้าต่อตาผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน นาทีที่ 76
หมดหน้าตักทั้งสองทีม เมื่อโรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายส่ง แอชลี่ย์ โคล ลงมาแทนไรอัน เบอร์ทรานด์ นาทีที่ 77 แต่ยังไม่ทันไร แอชลี่ย์ โคล ก็โดนไปเหลืองจากจังหวะไปตามทำฟาวล์ อเล็กซานเดอร์ ซง นาทีที่ 81 โดนเร็วกว่า อาบู ดิยาบี้ซะอีก
นาทีที่ 86 ฟาน เพอร์ซี่ หลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนจะล็อกหลบกองหลัง หลายจังหวะเกิ้น จังหวะสุดท้ายยิงไปติดเซพ ปีเตอร์ เช็คเป็นเตะมุมเท่านั้น
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 4 นาที อาร์เซน่อลได้เตะมุมแต่ไม่มีอะไร เตะไปโดนกองหลังเชลซีเคลียร์ก่อนจะเปิดบอลกลับมาให้ ฟาน เพอร์ซี ล้ำหน้าซะงั้น ท้ายเกมส์ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่มีประตูในเกมส์ลอนดอนดาร์บี้แมทช์เกมส์นี้ จบลงที่สกอร์ อาร์เซน่อล 0-0 เชลซี
รายชื่อนักเตะ อาร์เซน่อล 0-0 เชลซี
Match Stats
| 12(4) | Shots (on Goal) | 13(2) | |
| 12 | Fouls | 11 | |
| 7 | Corner Kicks | 7 | |
| 5 | Offsides | 4 | |
| 57% | Time of Possession | 43% | |
| 3 | Yellow Cards | 4 | |
| 0 | Red Cards | 0 | |
| 2 | Saves | 4 |
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประจำวันที่ 21 เมษายน 2012
อาร์เซน่อล 0-0 เชลซี
แอสตัน วิลล่า 0-0 ซันเดอร์แลนด์
แบล็คเบิร์น 2-0 นอริช ซิตี้
โบลตัน 1-1 สวอนซี ซิตี้
ฟูแล่ม 2-1 วีแกน
นิวคาสเซิ่ล 3-0 สโต๊ค ซิตี้
ควีนส์ปาร์ค 1-0 สเปอร์ส
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประจำวันที่ 22 เมษายน 2012
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-4 เอฟเวอร์ตัน
ลิเวอร์พูล 0-1 เวสต์บรอมวิช
วูล์ฟแฮมป์ตัน 0-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น