ผลนัดชิงชนะเลิศ สเปน 4-0 อิตาลี (Spain 4-0 Italy) Final EURO 2012 01/7/2012

ประมวลภาพผลนัดชิงชนะเลิศ สเปน 4-0 อิตาลี (Spain 4-0 Italy) Final EURO 2012 01/7/2012

     ทีมชาติสเปนเกมส์นี้จัดตัวผู้เล่นเป็นชุดเดียวกับนัดที่พบกับอิตาลีในนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม โดยส่งเชส ฟาเบรกัส ลงมาเป็นหน้าต่ำและไม่มีศูนย์หน้าตัวเป้าเหมือนเดิม ส่วนทีมชาติอิตาลี เปลี่ยนนักเตะจากนัดแรกที่พบกันหลายคนแต่เกมส์นี้ยังใช้คู่หน้าเป็น มาริโอ บาโลเตลลี่และ อันโตนิโอ คาสซาโน่ ลงมาเหมือนเกมส์ที่เอาชนะเยอรมันมาได้ในรอบรองชนะเลิศ 2-1 โดยรูปเกมส์ในช่วงต้นเกมส์เป็นสเปนที่เปิดเกมส์บุกเข้าใส่อิตาลีได้มากกว่า
     ประตูแรกมาแล้ว!!! มาเร็วเกินคาดจากจังหวะที่ อันเดรส อีเนียสต้าจ่ายบอลทะลุให้เชส ฟาเบรกัสหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษจนสุดเส้นหลังแล้วเปิดบอลเข้ากลางเป็น ดาวิด ซิลบาที่วิ่งเข้ามาโหม่งเข้าประตูไปในนาทีที่ 14
   หลังจากเสียประตูอิตาลีทำเกมส์บุกได้ดีขึ้นแต่ลูกยิงยังไม่ผ่านมือของอีเกร์ กาซิยาส จังหวะใกล้เคียงเป็นจังหวะของ คาสซาโน่ที่ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนจะยิงลอดขาเคราร์ด ปิเก้ บอลตรงกรอบแต่ยังไปตรงตัว อีเกร์ กาซิยาส แถมอิตาลีต้องมาเสียกองหลังตัวเก่งอย่าง จิออร์จิโอ คิเอลลินี ที่เจ็บต้องเปลี่ยนตัวออกไปตั้งแต่นาทีที่ 21 โดยส่งเฟเดริโก้ บัลซาเร็ตติ ลงมาแทน
     ใบเหลืองใบแรก จากจังหวะที่ เคราร์ด ปิเก้ไปเสียบเข้าข้างหลัง อันโตนิโอ คาสซาโน่ รับใบเหลืองใบแรกของเกมส์ไปในนาทีที่ 25
     ประตูที่สอง!!! จากเกมส์เร็วบอลโยนมากลางสนามฝั่งซ้ายที่ ฆอร์ดี้ อัลบาแล้วจ่ายเข้าในให้ ชาบี เอร์นานเดซ แล้วเป็น อัลบาเองที่วิ่งไปรับบอลจ่ายทะลุไม่ล้ำหน้าเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วซัดด้วยเท้าซ้ายสวนตัว จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน เข้าประตูไปนาทีที่ 41
     สถิติครึ่งแรกจาก espnfc.com เป็นสเปนที่ครองบอล 53% อิตาลี 47% โอกาสทำประตูสเปน 8 ครั้งเข้ากรอบ 3 ครั้ง ส่วนอิตาลีโอกาสทำประตู 7 ครั้งเข้ากรอบ 2 ครั้ง เตะมุมเป็น อิตาลี 3 ครั้ง สเปน 1 ครั้งและใบเหลืองฝั่งละ 1 ใบ
     ครึ่งหลังเป็นอิตาลีได้เขี่ยลูกเล่นเกมส์ก่อนโดยบุกจากซ้ายไปขวาของจอภาพ โดย เช เชลโล่ กรานเดลี่ ต้องแก้เกมส์ก่อน ส่ง อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ลงมาแทนอันโตนิโอ คาสซาโน่ ช่วงต้นเกมส์อิตาลีมีโอกาสได้บุกแต่จังหวะโหม่งทำประตูข้ามคานออกไป
   ช่วงต้นครึ่งหลังผลัดกันรุกผลัดกันรับ มีโอกาสทำประตูกันทั้งสองฝ่ายแต่ดูแล้วสเปนบุกได้น่ากลัวกว่าอิตาลีเล็กน้อย
     นาทีที่ 59 สเปนเปลี่ยนตัวคนแรกโดยเอาผู้ทำประตูแรกอย่าง ดาวิด ซิลบา ออกไปพักแล้วส่งตัวจี๊ดอย่าง เปโดร โรดริเกซ ลงมาแทน และอีก 2 นาทีต่อมาเป็น อิตาลีที่ต้องเหลืองผู้เล่น 10 คน หลังจากที่เปลี่ยนตัวไปครบ 3 คนแล้ว มีผู้เล่นเจ็บซะอีกเป็น ติอาโก้ ม็อตต้า ที่เพิ่งเปลี่ยนตัวลงมาแทน ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ ยังไม่ถึง 5 นาที ดันมาเจ็บเอ็นหลังหน้าขาใกล้ๆก้นกบ ต้องห้ามเปลออกไป ทำให้สถานการณ์ตอนนี้ของ อิตาลีชักลำบากจากการตาม 2 ประตูแถมต้องเล่น 10 คนอีก
     รูปเกมส์ตอนนี้กลายเป็นสเปนที่พับสนามบุกแล้วจากความได้เปรียบทั้งหมด ส่วนอิตาลีได้บุกมาก็กลายเป็นลูกล้ำหน้าไปซะหมด
     สเปนเปลี่ยนตัวอีกคน คราวนี้ส่งกองหน้าตัวเก่งจากเชลซีอย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ทำไปแล้ว 2 ประตูในทัวนาเม้นท์ ลงมาแทน เชส ฟาเบรกัสที่ก็ทำไปแล้ว 2 ประตูในยูโร 2012 เหมือนกันและเป็นคนจ่ายลูกแรกให้ซิลบา ในเกมส์นี้อีกด้วย ตอร์เรสลงมาในนาทีที่ 75
     จบแล้วประตูที่สาม!!! จากจังหวะจ่ายบอลกันพลาดเองของนักเตะอิตาลี แล้วโดยสเปนตัดได้บอลมาอยู่ที่ ชาบี เอร์นานเดซ จ่ายทะลุช่องให้เฟร์นานโด ตอร์เรส หลุดเข้าไปแปด้วยเท้าขวาติดปลายมือ จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน นิดนึงแต่บอลยังไหลเสียบเสาไกลเป็นประตู 3-0 นาทีที่ 84
     ประตูปิดท้าย!!! จากจังหวะจ่ายบอลจากกลางสนามทะลุมาให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส หลุดเข้ามาในเขตโทษ แต่ใจกว้างเป็นแม่น้ำดีดบอลด้วยขวาให้ ฆวน มาต้าที่เพิ่งเปลี่ยนตัวลงมายังไม่ถึง 2 นาที ได้ซัดด้วยซ้ายข้างถนัดแบบโล่งๆเข้าประตูไปนาทีที่ 88

ผลนัดชิงชนะเลิศ สเปน 4-0 อิตาลี (Spain 4-0 Italy) Final EURO 2012 01/7/2012

ประตู 1-0 จาก ดาวิด ซิลบา นาทีที่ 14
ใบเหลือง ของ เคราร์ด ปิเก้ นาทีที่ 25
ประตู 2-0 จาก ฆอร์ดี้ อัลบา นาทีที่ 41
ใบเหลือง ของ อันเดรีย บาร์ซาญี่ นาทีที่ 44
ประตู 3-0 จาก เฟร์นานโด ตอร์เรส นาทีที่ 84
ประตู 4-0 จาก ฆวน มาต้า นาทีที่ 88