ผลยูโร อังกฤษ 0-0 อิตาลี จุดโทษ 2-4 (England 0-0 Italy Penalty 2-4) 23/6/2012 EURO 2012

ประมวลภาพ ผลยูโร อังกฤษ 0-0 อิตาลี จุดโทษ 2-4 (England 0-0 Italy Penalty 2-4) 23/6/2012 EURO 2012

     ทีมชาติอังกฤษส่ง เวย์น รูนี่ย์ ลงเป็นตัวจริงนัดที่สองในทัวร์นาเม้นท์ และใช้ชุดผู้เล่นชุดเดียวกับนัดสุดท้ายในรอบแรก ส่วนทางด้านทีมชาติอิตาลีของกุนซือ เช เชลโล่ กรานเดลี่ ส่งกองหน้าตัวเกรียนอย่าง มาริโอ บาโลเตลลี่ ลงมาเป็น 11 ตัวจริงและเปลี่ยนผู้เล่นบางตำแหน่งจากนัดสุดท้ายของรอบแรก เริ่มเกมสืมาเป็นทางด้านอิตาลีที่ทำเกมส์บุกเข้าใส่อังกฤษก่อน
     ชนเสาอย่างจัง!!! ช่วงต้นเกมส์จังหวะทำประตูแรกเป็นของทางอิตาลี ที่บุกขึ้นมาก่อนบอลจะเปิดมาจากทางฝั่งขวาเข้ามาเป็น ดาเนียเล่ เด รอสซี่ ที่ได้ซัดด้วยเท้าขวาไซด์ก้อยผ่านมือโจ ฮาร์ทไปแล้วแต่บอลชนเสาอย่างจังกระเด้งออกมาแบบน่าได้ประตูสุดๆ ตั้งแต่นาทีที่ 4
     ซุปเปอร์เซฟ!!! จากจังหวะทำเกมส์ขึ้นมาทางฝั่งขวาของ เกล็น จอห์นสัน ก่อนตัวเองจะวิ่งเข้าในให้เพื่อนชิ่งบอลกันแล้วจ่ายบอลเข้ากลางเป็น เกล็น จอห์นสันเองที่ได้จังหวะยิงงัดระยะ 5 หลาแต่บอลยังไปติดซุปเปอร์เซฟของจิอันลัยจิ บุฟฟอน ในนาทีที่ 5
     ผ่านไป 30 นาทีเป็นทางอิตาลีที่ได้ครองเกมส์บุกใส่อังกฤษมากกว่า และมีโอกาสทำประตูจาก มาริโอ บาโลเตลลี่จากจังหวะที่ อังเดร ปิร์โล่เปิดบอลยาวมาให้ แล้วบาโลเตลลี่ไม่ล้ำหน้าได้พาบอลเข้าไปยิงกะให้ข้ามตัวโจ ฮาร์ทแต่ยังมี จอห์น เทอร์รี่เข้ามาเอาตัวบังบอลซะก่อน ส่วนทางด้านอังกฤษได้โอกาสจากลูกโหม่งของเวย์น รูนี่ย์ แต่โดนกดดันโหม่งข้ามคานไปเอง
     จังหวะสวยๆ เป็นจังหวะประสานงานของเวย์น รูนี่ย์ที่ผ่านบอลด้วยลูกส้นให้คู่กองหน้าอย่าง แดนนี่ เวลเบ็ค ได้ซัดเต็มข้อแต่บอลติดไซด์เหินข้ามคานออกไป นาทีที่ 32
     เกือบนำอีกแล้ว!! จากจังหวะพับสนามบุกของอิตาลี บอลครอสข้ามมาถึง อันโตนิโอ คาสซาโน่ได้โหม่งชงกลับเข้ากลางระยะไม่ถึง 3 หลาจะให้ มาริโอ บาโลเตลลี่ที่เติมขึ้นมาจะถึงบอลอยู่แล้วแต่ยังมี โจลีออน เลสค็อตต์ที่ตามมาสกัดบอลออกไปเส้นยาแดงผ่าแปด นาทีที่ 41
     ช่วงท้ายครึ่งแรกอังกฤษได้สวนเร็วขึ้นมาบ้างแต่ยังไม่มีเสียวเท่าไหรเป็นทางอิตาลีที่ยุงบุกหวังเอาประตูนำให้ได้ แต่จบเกมส์ครึ่งแรกก็ยังไม่มีประตูจบด้วยสกอร์ อังกฤษ 0-0 อิตาลี
     สถิติครึ่งแรกเป็นทางอิตาลีที่ครองบอล ถึง 63% อังกฤษครองบอล 37% โอกาสทำประตูอังกฤษ 4 ครั้งเข้ากรอบ 1 ครั้ง ส่วนอิตาลีมีโอกาส 13 ครั้งเข้ากรอบ 3 ครั้ง เตะมุมเป็นอิตาลี 2 ครั้ง อังกฤษได้แค่ครั้งเดียว ครึ่งแรกยังไม่มีใบเหลือง
     ครึ่งหลังทางด้านอังกฤษเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเล่นเกมส์ก่อนโดยบุกจากขวาไปซ้ายของจอภาพ เป็นอังกฤษที่ได้บุกก่อนแต่ยังจ่ายกันพลาดเอง เป็นทางอิตาลีที่ได้กลับมาบุกและเกือบได้ประตูจากลูกยิงของ ดาเนียเล่ เด รอสซี่ ที่ยิงผิดเหลี่ยมไปเองแบบน่าเสียดาย
     นาทีที่ 52 อิตาลียิงสลุดแต่ไม่ได้ประตู จากลูกยิงไกลของ เด รอสซี่ ติดเซพโจ ฮาร์ทแต่บอลยังมาเข้าทาง บาโลเตลลี่ได้พลิกมายิงติดเซฟโจ ฮาร์ทอีกแต่บอลก็ยังไปเข้าทาง ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ได้ยิงซ้ำดาบสามแต่คราวนี้บอลข้ามคานออกไปแบบสุดมันส์
     อังกฤษบุกไม่ขึ้น กุนซือรอย ฮอต สัน ต้องแก้เกมส์เปลี่ยนตัวก่อนโดยส่งแอนดี้ แคร์โรล กับธีโอ วัลค็อตต์ลงมาแทน แดนนี่ เวลเบ็คและเจมส์ มิลเนอร์ตามตำแหน่งเดิม ในนาทีที่ 61
     ผ่านไป 65 นาทียังเป็นอิตาลีที่ครองเกมส์บุกได้มากกว่า แต่อังกฤษได้มีเสียวบ้างจากจังหวะลูกยิงซ้ำเหน่งๆของ แอชลี่ย์ ยัง ที่ทัวนาเม้นท์นี้ยังโชว์ฟอร์มไม่ออก และลูกนี้ก็ไปแฉลบกองหลังอิตาลีออกได้แค่เตะมุมเท่านั้น
     นาที 80 อิตาลีเปลี่ยนตัวบ้างหลังจากบุกยังไงก็ยังยิงประตูอังกฤษไม่ได้ โดยเปลี่ยนอันโตนิโอ คาสซาโน่ ไปก่อนหน้าและอีกคนคือ ดาเนียเล่ เด รอสซี่ แล้วส่ง อเลสซานโดร เดมันติกับ อันโตนิโอ โนเชริโน่ลงมาแทน เกมส์ก็ยังเป็นอิตาลีบุกตลอดๆ
   ใบเหลืองแรกของเกมส์เป็นของนักเตะอิตาลี เป็นอันเดรีย บาร์ซาญี่ ที่ไปทำฟาวล์แอชลีย์ ยัง โดนใบเหลืองใบแรกของเกมส์ทันที ในนาทีที่ 82
   ช่วงนาทีท้ายเป็นอิตาลีที่เกือบได้ประตูนำจาก อันโตนิโอ โนเชริโน่ที่ได้หลุดขึ้นมายิงเหน่งๆแต่ยังดีที่ เกล็น จอห์นสันวิ่งเข้ามาขวางเป็นแค่ลูกเตะมุมแบบน่าเสียดายสุดๆ ทางด้านอังกฤษก็ได้บุกเฮือกสุดท้ายจากจังหวะที่บอลมาถึงแอชลี่ย์ ยังแล้วไหลต่อให้ แอชลีย์ โคล ที่เติมมาทางฝั่งซ้ายจนสุดเส้รหลังเปิดเข้ากลางไปเป็นแอนดี้ แคร์โรลได้โหม่งชงกลับมาให้เวย์น รูนี่ย์ตีลังกายิงแต่บอลโด่งข้ามคานออกไป
   จบเกมส์ 90 นาทีสกอร์ยังเสมอกันอยู่ที่ อังกฤษ 0-0 อิตาลี ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาทีนับเป็นคู่แรกในรอบก่อนรองชนะเลิศหรือรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ต้องต่อเวลาพิเศษ

     เริ่มเกมส์ช่วงต่อเวลาเป็นอังกฤษที่เขี่ยลูกเล่นเกมส์ก่อนโดยบุกจากซ้ายไปขวาของจอภาพ และได้บุกขึ้นมาก่อนในช่วงแรกก่อนที่จะเป็นอิตาลีครองเกมส์บุกได้มีโอกาสยิงก่อนเหมือนเดิม แต่อิตาลีมาเสียใบเหลืองใบที่ 2 ของเกมส์และเป็นคนที่ 2 ของอิตาลี เป็นของคริสเตียน มาจโจ้นาทีที่ 93
     ผ่านไป 100 นาที เป็นอิตาลี ได้จังหวะทำประตูขึ้นนำหลายครั้งจาก มาริโอ บาโลเตลลี่แต่ยังไม่คมพอทั้งยิงไปติดเซฟและยิงพลาดไปเอง และจังหวะของ อเลสซานโดร เดมันติที่กึ่งยิงกึ่งผ่านบอลไปชนเสา
   ช่วงนาทีสุดท้ายของการต่อเวลาพิเศษครึ่งแรกเป็นอังกฤษที่ได้บุกขึ้นมาของเกล็น จอห์นสันก่อนจะจ่ายให้ ธีโอ วัลค็อตต์หลุดเข้าไปเปิดบอลให้แอนดี้ แคร์โรลแต่บอลออกหลังไปก่อนอย่างน่าเสียดาย
   เริ่มครึ่งหลังของการต่อเวลาพิเศษอีก 15 นาที อิตาลีที่ครองเกมส์มาตั้งแต่ต้นเกมส์คงไม่อยากดวลจุดโทษแน่นอน พยายามบุกเข้าใสเหมือนเดิม และได้โอกาสทำประตูเพิ่มอีกหลายครั้งแต่ยังไม่เป็นประตู
     ล้ำหน้าไปก่อน!!! นาที 115 อิตาลีส่งบอลเข้าประตูไปได้แล้วจากลูกโหม่งของ อันโตนิโอ โนเชริโน่ แต่ผู้กำกับเส้นยกธงให้เป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนทำเอาแฟนบอลเฮเก้อกันไป
     ช่วงท้ายเกมส์จริงๆไม่มีประตูเพิ่มต้องดวลจุดโทษหลังจากที่เสมอกันไปด้วยสกอร์ อังกฤษ 0-0 อิตาลี
     และเป็นอิตาลีที่ได้ยิงจุดโทษก่อนและเอาชนะอังกฤษไปได้ด้วยสกอร์ อังกฤษ 2-4 อังกฤษ ทำให้อิตาลีผ่านเข้ารอบไปพบกับเยอรมัน ในรอบรองชนะเลิศโดยจะแข่งกันวันที่ 28 มิถุนายน 2012