เปรียบเทียบตัวต่อตัว ศึกแดงเดือด ลิเวอร์พูล - แมนยู 15 ตุลาคม 2011

เปรียบเทียบตัวต่อตัว ศึกแดงเดือด ลิเวอร์พูล - แมนยู 15 ตุลาคม 2011

     ลิเวอร์พูล - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
     England - Premire League
     วันที่ 15 ตุลาคม 2011 - เวลา 18.45 น.(12.45 LOCAL TIME)
     สนาม แอนฟิลด์,ลิเวอร์พูล

บทความโดย ลิ้ม ทรนง
ช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม มีเกมบิ๊กแมตช์ที่จัดว่ายิ่งใหญ่และเปี่ยมไปด้วยศักดิ์ศรีมากสุดเกมหนึ่งใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นั่นก็คือศึกแดงเดือด ครั้งที่ 182 ยกแรกในซีซั่นนี้ ...
ซึ่งลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายเปิดรังแอนฟิลด์รับการมาเยือนของคู่อริตลอด กาลอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และก็เป็นธรรมเนียมเช่นทุกครั้งที่เราจะมาโหมโรงถึงความพร้อมของทั้งสองทีม ซึ่งวันนี้เราจะมาวิเคราะห์จุดยุทธศาสตร์ของทั้งคู่กันว่าฝ่ายใดมีความแข็ง แกร่งอย่างไรบ้าง
  
 ผู้รักษาประตู
ลิเวอร์พูล
โฆเซ่ เรน่า




นี่คือเกมแดงเดือด ครั้งที่ 14 ในชีวิตของนายทวารมือ 2 ทีมชาติสเปนวัย 29 ปีรายนี้ ดังนั้นเรื่องประสบการณ์ที่จะต้องลงเล่นเกมแห่งศักดิ์ศรีเยี่ยงนี้บอกได้คำ เดียวเลยว่าหายห่วง

 แม้เส้นทางในนามทีมชาติ เรน่า จะเป็นได้แค่พระรองของ อีเกร์ กาซียาส นายทวารกัปตันทีม เรอัล มาดริด ทว่ากับผลงานการเฝ้าเสาในถิ่นแอนฟิลด์แล้วเขาคือมือหนึ่งของทีมชนิดผูกขาด นับตั้งแต่ย้ายจากบียาร์เรอัลมาร่วมทีม ''หงส์แดง'' เมื่อปี 2005

 แม้ลิเวอร์พูลเองเกมรับจะไม่เหนียวแน่นซักเท่าไรนัก ทว่าการมีเรน่าลงเฝ้าเสาในแต่ละเกม ถือว่าสร้างความอุ่นใจให้กับเพื่อนร่วมทีมได้มากโข ในขณะเดียวยังเป็นการสร้างความหนักใจให้กับบรรดาแนวรุกฝ่ายตรงข้ามด้วยเพราะ สถิติไม่เสียประตู 108 จาก 219 เกม จัดว่าบ่งบอกถึงความยอดเยี่ยมชนิดแทบไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรกันมาก แมนฯ ยูไนเต็ด
ดาบิด เด เคอา
นายด่านดาวรุ่งเลือดกระทิงดุวัย 20 ปีรายนี้ ได้รับการจับตามองเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ หลังจากตัดสินใจย้ายมาเฝ้าเสาให้แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาพร้อมกับพ่วงท้ายด้วยดีกรีนายด่านมือหนึ่งทีมชาติ สเปนแชมป์ยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีแบบหมาดๆ
 
การพุ่งชนโอกาสก้อนมหึมาพร้อมกับความท้าทายอันใหญ่หลวงในการย้าย เข้ามาทดแทนการจากไปของ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ คือมุลเหตุจูงใจครั้งสำคัญที่นำพาให้ เด เคอา ตัดสินในย้ายมาเฝ้าเสาในเมืองผู้ดี ซึ่งถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญในชีวิตการค้าแข้งของนายทวารผู้มีถิ่นฐานกำเนิด ในเมืองมาดริดรายนี้

เด เคอา รู้ดีว่าความกดดันทั้งหลายกำลังรอถาโถมเข้าใส่ตัวเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในวันที่ตัวเขาก่อความผิดพลาด และประสบความล้มเหลว แต่ในทางกลับกันเขาเองก็พร้อมที่จะเผชิญกันเสียงปรบมือแซ่ซ้องสรรเสริญในยาม ที่เขาพิสูจน์ตัวเองได้เช่นกันว่าเขาคิดไม่ผิดการที่ย้ายมาเล่นในพรีเมีย ร์ลีก

 อย่างไรก็ดีในการเปิดตัวสองเกมแรกอย่างเป็นทางการซีซั่นนี้ของ แมนฯ ยูไนเต็ด เด เคอา กลับทำผลงานสวนทางกับความคาดหวัง เมื่อถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ กับแมนฯ ซิตี้ ต่อด้วยเกมพรีเมียร์ลีกกับ เวสต์บรอมวิช ที่ก่อความผิดพลาดจนมีส่วนกับประตูที่เสียไป

สาเหตุสำคัญอาจเป็นเพราะในเรื่องของประสบการณ์ที่ยังน้อยเกินไปกับ การที่ต้องมารับภาระอันหนักอึ้งของยอดทีมแห่งเมืองผู้ดีจนทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กำลังชั่งใจอย่างหนักว่าจะให้ใครก้าวขึ้นมาเป็นมือหนึ่งของทีมหลังจากตัวแคน ดิเดตอีกรายอย่าง อันเดอร์ส ลินเดการ์ด ก็ทำผลงานได้คงเส้นคงวา แต่เชื่อเหลือเกินว่า เด เคอา น่าจะมีภาษีดีกว่าในการได้รับโอกาสให้ลงเฝ้าเสาในเกมนัดสำคัญนัดนี้



 กองหลัง
ลิเวอร์พูล
เจมี่ คาร์ราเกอร์
กองหลังตัวเก๋าวัยใกล้ปลดระวางรายนี้ผ่านเกมสำคัญ และเผชิญหน้ากับทีมระดับเสือสิงห์กระทิงแรดมาอย่างโชกโชนทำให้เรื่อง ประสบการณ์นั้นไม่ต้องพูดถึง

จากบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับสมัยเริ่มต้นอาชีพค้าแข้ง แปรผันมาสู่ตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟจนถึงปัจจุบันนี้ คาร์ราเกอร์ สามารถพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่า เขาคือนักเตะสารพัดประโยชน์อย่างแท้จริง เพราะนอกจากสองตำแหน่งที่กล่าวมานั้น แบ็กขวาและแบ็กซ้ายเขาก็เคยรับหน้าที่มาแล้ว แถมยังทำได้ดีแบบไม่มีที่ติอีกด้วย

ในขณะเดียวกันจากเซนเตอร์ฮาล์ฟตัวตลกที่ก่อแต่ความผิดพลาดซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า มาวันนี้เขากลายเป็นเสาหลักในแนวรับของทีมชนิดที่ขาดไม่ได้ และความยอดเยี่ยมของเขามีมากแค่ไหนนั้น คิดเอาแล้วกันว่าถึงขาดที่ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ต้องลงทุนเกลี้ยกล่อมด้วยตัวเองให้กลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง ในศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบสุดท้าย เมื่อปีที่ผ่านมา

แม้ฟอร์มล่าสุดของคาร์ราเกอร์ จะเริ่มออกทะเลอีกครั้ง หลังจากก่อความผิดพลาดในเกมพรีเมียร์ลีก 2-3 นัดล่าสุด ทว่าเขายังคงเป็นตัวหลักในเกมรับ และเป็นรายชื่อผู้เล่นในลำดับต้นๆ ที่ เคนนี่ ดัลกลิช จะใส่ชื่อลงสนามเช่นเดิม แมนฯ ยูไนเต็ด
ฟิล โจนส์
 กองหลังดาวรุ่งสารพัดประโยชน์วัย 19 ปีรายนี้ ถูกกล่าวถึงอย่างมากว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวตายตัวแทนของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวเก๋าที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนเรื้อรัง และมีอายุอานามโรยราเต็มทน

โจนส์ คือผลผลิตชั้นดีที่ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ภูมิใจนำเสนอ หลังจากได้รับโอกาสลงเล่นในนามทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2009 ก่อนจะยึดตัวจริงของทีมได้อย่างรวดเร็ว

 ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดุดันบวกกับมาตรฐานที่เพิ่มสูงขึ้นแบบไร้ขีด จำกัด ทำให้ตกเป็นเป้าหมายของแมนฯ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก่อนที่ท้ายที่สุดแล้วจะเป็นทีม ''ปีศาจแดง'' ที่อาศัยความแน่นอนกว่าเบียดเอาชนะแย่งตัวมาครองได้สำเร็จ
 
ด้วยความสารพัดประโยชน์ของโจนส์ ที่เล่นได้ทั้ง เซนเตอร์ฮาล์ฟ, แบ็กขวา รวมถึงมิดฟิลด์ตัวรับ ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ค่อนข้างชื่นชอบเป็นพิเศษจนส่งลงสนามบ่อยครั้งในระยะหลัง ซึ่งผลพลอยได้ที่ตามมาจากฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขา ก็คือการถูกเรียกตัวขึ้นสู่ทำเนียบทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่พร้อมกับประเดิมสนาม นัดแรกเป็นที่เรียบร้อยในเกมยูโร 2012 รอบคัดเลือก กลุ่ม จี ที่เสมอกับมอนเตเนโกร 2-2 เมื่อวันศุกร์ที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา



 กองกลาง
ลิเวอร์พูล
ชาร์ลี อดัม
ห้องเครื่องทีมชาติสกอตแลนด์รายนี้ถือเป็นนักเตะที่ลิเวอร์พู ลกำลังมองหามาช้านาน นับตั้งแต่ปล่อยตัว ชาบี อลอนโซ่ ไปให้กับเรอัล มาดริด เมื่อปี 2009 และถือเป็นนักเตะในอุดมคติของ เคนนี่ ดัลกลิช กุนซือคนเก่งเลยก็ว่าได้

 ด้วยสไตล์การเล่นที่ได้ทั้งบู๊และบุ๋นบวกกับเป็นเลือดนักสู้ตาม เผ่าพันธุ์สกอตติชทำให้อดัมก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมชนิดที่ขาดไม่ได้แทบ จะในบัดดล
 
แฟนบอล ''หงส์แดง'' กำลังใจจดใจจ่อเฝ้ารอการกลับมาฟิตเต็มร้อยเพื่อลงสนามอีกครั้งของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมคนเก่ง เพราะสิ่งที่พวกเขาอยากจะเห็นก็คือการประสานงานระหว่าง อดัม กับ ''สตีวี่ จี'' ว่ามันจะยอดเยี่ยมไร้เทียมทานเพียงใด
 
จุดเด่นของอดัม คือวางบอลอันแม่นยำดุจจับวางบวกกับลูกฟรีคิกที่เฉียบขาด และจุดนี้เองน่าจะเป็นอาวุธเด็ดที่ ลิเวอร์พูลจะใช้ปลิดชีพแมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมกับเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะในเกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด
นานี่
 หลังการจากไปของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกรุ่นพี่ทีมชาติโปรตุเกสที่ย้ายไปร่วมทัพเรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวอันมากที่สุดเป็นสถิติโลก เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2009 ถือเป็นการโอกาสครั้งสำคัญที่ทำให้นานี่ก้าวพ้นร่มเงาพร้อมกับฉายแววอันเจิด จรัสได้ในที่สุด
 
จากมิดฟิลด์ริมเส้นที่เปี่ยมไปด้วยลูกเล่นอันแพรวพราว แต่กลับไม่ได้สร้างประโยชน์อันใดให้กับทีมเท่าที่ควรแปรเปลี่ยนมาเป็นปีกคน สำคัญที่มีคุณภาพคับแก้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาพร้อมที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวตาย ตัวแทนของ โรนัลโด้ แล้ว
 
สองฤดูกาลล่าสุด นานี่ สามารถยกระดับการเล่นจนกลายเป็นตัวหลักของทีมที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะกับฟอร์มล่าสุดของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้ ที่เรียกได้ว่ากำลังร้อนฉ่า และถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของแมนฯ ยูไนเต็ด เลยก็ว่าได้


 กองหน้า
ลิเวอร์พูล
หลุยส์ ซัวเรซ
กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยว่าที่ตำนานเบอร์ 7 คนใหม่แห่งถิ่นแอนฟิลด์รายนี้ ก้าวเข้ามาอยู่ในใจของแฟนบอล ''หงส์แดง'' ได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาอันสั้น

หลุยส์ ซัวเรซ หรือ ''คิง หลุยส์'' อันเป็นฉายาที่เหล่า ''เดอะ ค็อป'' พร้อมใจกันมอบให้ ก้าวเข้ามารับภาระหน้าที่ในการทำประตูเพื่อทดแทนการจากไปของ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวด้วยการย้ายไปแสวงหาความสำเร็จกับเชลซี เมื่อช่วงปีใหม่ของฤดูกาลที่แล้ว
 
ซึ่งเพียงแค่ซีซั่นแรกบนแผ่นดินอังกฤษ เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม โคปา อเมริกา 2011 ก็สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่ววงการหลังจากเปิดตัวอย่างสวยหรู ด้วยการทำประตูที่สองย้ำชัยชนะเหนือสโต๊ค ซิตี้ ทั้งที่เจ้าตัวลงเล่นเป็นตัวสำรอง และเกมแดงเดือดนัดแรกในชีวิตของเจ้าตัวเมื่อฤดูกาลก่อนก็จัดการหลอกหลอนแผง กองหลังแมนฯ ยูไนเต็ด จนเสียผู้เสียคนมาแล้ว ก่อนจะคว้าชัยชนะไปได้อย่างสวยงาม 3-1
 
ด้วยสไตล์การเล่นอันแพรวพราว และแฝงไปด้วยประสิทธิภาพในการยิงประตูที่หวังผลได้สูง ทำให้ซัวเรซก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าเบอร์หนึ่งของทีมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แมนฯ ยูไนเต็ด
เวย์น รูนี่ย์
 
แทบไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรกันมากในความยอดเยี่ยมของกองหน้าจุด เดือดต่ำรายนี้ เพราะนับตั้งแต่ที่ เวย์น รูนี่ย์ ตัดสินใจย้ายจากเอฟเวอร์ตัน มาร่วมทัพแมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2004 ด้วยค่าตัวอันเป็นสถิติสูงที่สุดของกองหน้าที่มีวัยต่ำกว่า 20 ปีในเวลานั้น
 
รูนี่ย์ เปิดตัวนัดแรกภายใต้เครื่องแบบ ''ปีศาจแดง'' ด้วยฟอร์มอันเร่าร้อน หลังจากตะบันแฮตทริกใส่เฟเนร์บาห์เช่ บนชัยชนะ 6-2 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มพร้อมกับสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยการเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ทำแฮตทริกได้ในถ้วยใหญ่ของยุโรปด้วย วัยเพียง 18 ปี 335 วัน
 
จากนั้นเป็นต้นมา รูนี่ย์ก็จัดการผลิตสกอร์อย่างต่อเนื่องแบบเป็นกอบเป็นกำ จนกลายเป็นกองหน้าเบอร์ 1 ของทีม พร้อมกับก้าวขึ้นมารั้งอันดับ 9 บนทำเนียบดาวยิงตลอดกาลของแมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยจำนวน 156 ลูกเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งแม้จะยังคงห่างจากอันดับ 1 อย่าง เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ที่ตะบันไปถึง 249 ลูกอยู่พอสมควร แต่เชื่อเหลือเกินว่าด้วยอายุอานามที่ยังพร้อมโลดแล่นอีกหลายปี บวกกับผลงานการถล่มประตูที่หาตัวจับยากแบบนี้ อีกไม่ช้าชื่อของหัวหอกร่างตันจะได้กลายเป็นตำนานดาวยิงสูงสุดคนใหม่ในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้ไม่ยาก


ขอขอบคุณเนื้อข่าวดีๆจาก


By ManU - Liverpool Sale

1 ความคิดเห็น: